ประโยชน์ผักโขม
วิตามินเอ วิตามินซี กรดอะมิโน และสารอาหารอื่นๆ เช่น ธาตุเหล็ก แคลเซียม และฟอสฟอรัสสูง เป็นผักบำรุงน้ำนมสำหรับคุณแม่ลูกอ่อน และแม้ผักโขมจะเป็นผักใบเขียว แต่ก็มีเบต้าแคโรทีนสูง โดยมีสารลูทีนและสารเซอักแซนทิน ซึ่งเป็นสารแคโรทีนอนด์อยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งสารทั้งสองนี้มีสรรพคุณช่วยชะลอความเสื่อมของดวงตา ลดความเสี่ยงจากโรคดวงตาเสื่อมได้ถึงร้อยละ 43 บ้านอะลาง
การปลูก
ชอบดินร่วนซุยและชุ่มชื่นขึ้นใต้ร่มเงาขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด
เป็นพืชล้มลุกฤดูเดียวลำต้นสีเขียว สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม พบทั่วไปในหลายพื้นที่ ขึ้นง่าย โตเร็ว ทนแล้งได้ดี ไม่ทนน้ำขัง ผักโขมบ้าน ผักโขมสวน และผักโขมจีน ชนิดที่คนนิยมกินและมีวางขายทั่วไปก็คือผักโขมจีนนั่นเองลำต้นอวบน้ำ สูง 1 – 2 ฟุต ใบอวบใหญ่ สีเขียวเข้ม
สรรพคุณและวิธีใช้
1. ใบสด ใช้น้ำคั้นทาแก้คันและแก้พิษแมลงป่อง รักษาแผลพุพองลวกกินเป็นผัก ทำแกงจืด
2. ราก มีสรรพคุณในการขับปัสสาวะ ขับเสมหะ ต้มอาบแก้คัน เป็นยาถอนพิษร้อนใน แก้ไข้ แก้หัดต่าง ๆ แก้เบื่ออาหาร แก้กลาก ทั้งต้น ต้มอาบแก้คัน ขับเสมหะ ขับปัสสาวะ (ใช้ร่วมกับโขมหิน เรียกว่า โขมทั้งสอง)คุณค่าทางอาหารผักโขม มีส่วนช่วยลดอาการแน่นท้อง ช่วยให้เจริญอาหาร และป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟันได้
ผักโขมหนาม
มีหนามแหลมตามข้อยาว 1-3 เซนติเมตร ทั้งต้น แก้ตกเลือด แก้แน่นท้อง ขับน้ำ ขับปัสสาวะ ใบ ฟอกเลือด ฟอกแผล ราก ใช้รักษาอาการคันที่ผิวหนัง โดยการนำมาอาบ เป็นยาระบายสำหรับเด็ก ตำพอกปิดแผลที่เป็นหนอง แก้น้ำร้อนลวก เป็นยาแก้ตกเลือด แก้ฝี แก้ขี้กลาก เป็นยาขับน้ำนม แก้แน่นท้อง แก้พิษ แก้ช้ำใน แก้ไข้ ระงับความร้อน ใช้ในเด็กแก้ลิ้นเป็นฝ้าละออง เบื่ออาหารได้อย่างดี รับประทานเป็นผัก ลำต้น โดยลอกเปลือก และหนามออก ยอดอ่อนใช้แกงจืด ผัดน้ำมัน แกงเลียง แกงส้ม แกงอ่อม ทั้งต้นย่างไฟ แก้ตกเลือด แน่นท้อง ขับน้ำนม ขับปัสสาวะ ในอินโดนีเซีย ใช้ฟอกเลือด พอกแผล อินเดียใช้ต้น ใบ และราก แก้อาการคันตามผิวหนัง เป็นยาระบายในเด็ก โขมหนามขมหนาม เป็นพืชในกลุ่มวัชพืช ขึ้นง่ายและขึ้นเองตามธรรมชาติ ก้านและลำต้นมีหนาม ใบเป็นสีเขียวใหญ่กว่าผักโขมแดง ส่วนที่ใช้เป็นยา ทั้งต้น
ผักโขมจีน
ลักษณะเด่นประจำพันธุ์
มีคุณค่าทางอาหารสูง มีสารต้านอนุมูลอิสระ ใบและลำต้นขนาดใหญ่สีแดงสะดุดตา รสชาตดี สามารถปลูกไว้เพื่อประกอบอาหารและปลูกไว้เพื่อประดับสวนได้
ดิน/สภาพอากาศที่เหมาะสม
เป็นพืชที่ปลูกและดูแลรักษาง่าย ชอบดินร่วนปนทรายระบายน้ำดี ชอบแดด ปลูกได้ตลอดปี ถ้าเก็บเมล็ดพันธุ์ปลูกช่วงเดือน พย.
คำแนะนำในการปลูก
เหมาะสำหรับปลูกในแปลงกลางแจ้ง ใช้เมล็ดหว่านห่างๆ ในแปลงที่เตรียมไว้แล้วแล้วคลุมด้วยฟางข้าวเพื่อรักษาความชื้น และรดน้ำให้ชุ่ม ทุกวัน ระยะห่างระหว่างต้น x แถว ถ้าปลูกไว้กินให้ใช้วิธีการหว่านห่างๆ บนแปลง / ถ้าปลูกเพื่อ เก็บเมล็ดพันธุ์ ให้ปลูกระยะห่าง 40 ซม.x50 ซม.
การดูแลและบำรุงรักษา
การให้น้ำ ควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ ให้พอเหมาะกับพืชไม่ควรให้แห้งหรือแฉะมากเกินไป (ให้คอยสังเกตที่ดินปลูก)
โรค - แมลง
กรณีโรคในผักโขมจีนแดงยังไม่พบ แต่จะมีแมลงมารบกวนกัดกินใบ ถ้ามีก็ให้ใช้วิธีการกำจัดด้วยมือก็เพียงพอแล้ว
ระยะเวลาในการเก็บเกี่ยว
เมื่อผักโขมอายุ ได้ 20-25 วัน ก็ทยอยเก็บเกี่ยวได้เรื่อยๆ ถ้าลำต้นแก่แล้วยังสามารถกินส่วนที่เป็นใบได้เรื่อยๆ
การเก็บเมล็ดพันธุ์เพื่อทำพันธุ์ต่อไป
เมื่อผักโขมจีนอายุประมาณ 55-60 วัน จะเริ่มออกดอก หลังจากนั้นอีกประมาณ 70 วัน ให้สังเกตเมล็ดพันธุ์ว่าช่อดอก แห้งหรือไม่ ถ้าสีของดอกและใบเปลี่ยนเป็นสีเหลืองแก่ผสมสีน้ำตาลก็สามารถตัดต้นเพื่อนำไปตากได้ หลังจากนั้นให้นำไปตากแดด 3-4 แดดเพื่อให้แห้ง เมื่อแห้งแล้วให้นำต้นที่ตากมาฟาดและขยี้ในกระสอบเพื่อเอาเมล็ดออกจากลำต้น จากนั้นนำเมล็ดที่ได้มาขยี้ เอาเปลือกหุ้มเมล็ดออกและใช้กระด้งผัดเอาเศษฝุ่นเศษเปลือกหุ้มเมล็ดออกให้หมด แล้วใช้ตะแกรงรูขนาดเล็กช่วยร่อนทำความอีกรอบ แล้วค่อยเก็บใส่ถุงกระดาษและเขียนชื่อและวันเดือนปีที่เก็บแล้วพับใส่ในถุงพลาสติกเก็บไว้ในตู้เย็นเพื่อรักษาอัตราการงอกและลดการหายใจของเมล็ดพันธุ์ให้น้อยที่สุด จะสามารถเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้ใช้ได้นานเกิน 2 ปีขึ้นไป บ้านอะลาง