การปลูกเพกา ลิ้นฟ้า


ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :
ไม้ต้น สูง 3-12 เมตรแตกกิ่งก้านน้อย ใบประกอบแบบขนนกสามชั้น ขนาดใหญ่ เรียงตรงข้ามรวมกันอยู่บริเวณปลายกิ่ง ใบย่อยรูปไข่หรือรูปไข่แกมวงรี กว้าง 4-8 ซม. ยาว 6-12 ซม. ดอกช่อ ออกที่ปลายยอดก้านช่อดอกยาว ดอกย่อยขนาดใหญ่กลีบดอกสีนวลแกมเขียว โคนกลีบเป็นหลอดสีม่วงแดง หนาย่น บานกลางคืน ผลเป็นฝัก รูปดาบ เมื่อแก่จะแตก ภายในเมล็ดแบน สีขา  ส่วนที่ใช้ : ราก เปลือกต้น ฝักอ่อน  บ้านอะลาง


สวนเพกา พันธุ์เพชรโนนผึ้ง หนึ่งเดียวในอุบลราชธานี
ต้นเพกา(ลิ้นไม้) พันธุ์เพชรโนนผึ้ง คิดค้นพันธุ์โดยคุณสุรพล คูณผล นักส่งเสริมวิชาการเกษตรชำนาญการ สำนักงานเกษตรอำเภอสำโรง จังหวัดอุบลราชธานี ให้ผลผลิตต่อเนื่อง 8 เดือนต่อปี ตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน-เดือนพฤศจิกายน ประมาณ 10,000 กิโลกรัม พื้นที่ปลูกทั้งหมด 8 ไร่

 ประวัติความเป็นมา  
นายสุรพล คูณผล นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ ประจำสำนักงานเกษตรอำเภอสำโรง ด้วยความเป็นนักส่งเสริมการเกษตรมากว่า 30 ปี และประสบปัญหามาตลอดจากเกษตรกรที่ปลูกลิ้นไม้ว่าทำไมลิ้นไม้เมื่อเกิดดอกสมบูรณ์แต่ไม่ติดฝัก เมื่อ ปี 2544 ที่ผ่านมาจึงมีแนวคิดที่อยากปรับปรุงพันธุ์ลิ้นไม้ ซึ่งเป็นสมุนไพรพื้นบ้านที่หาได้ยากแล้วในปัจจุบัน จึงทำการรวมรวมลิ้นไม้พันธุ์ต่างๆของแต่ละจังหวัดมาทำการศึกษาและทดลองปลูก

ปี 2552 จึงได้ค้นพบต้นลิ้นไม้ 1 ต้นที่มีลักษณะดี เจริญเติบโตเร็ว ออกดอกเยอะ ผลดก และติดฝักดี โดยลิ้นไม้(เพกา) หนึ่งต้นสามารถขยายพันธุ์ต่อได้อีกประมาณ 500 ต้น เพราะขยายพันธุ์ได้ทุกส่วน จึงได้ทำการตั้งชื่อและขึ้นทะเบียนพันธุ์ลิ้นไม้ไว้เรียบร้อยแล้วว่า “เพกา(ลิ้นไม้)พันธุ์เพชรโนนผึ้ง” บ้านอะลาง

   คุณสุรพล คูณผล  
ผู้คิดค้นและค้นพบต้นเพกา พันธุ์เพชรโนนผึ้ง หนึ่งเดียวที่จังหวัดอุบลราชธานี  เทคนิคการปลูกและการดูแลรักษาต้นเพกา(ลิ้นไม้) พันธุ์เพชรโนนผึ้ง

1.ใช้ระยะปลูก4x4 เมตร ขุดหลุมลึก 50x50 เซนติเมตร รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอก 1 ปี๊บต่อหลุมต่อต้น โดยคลุกเคล้ากับดิน+ผสมด้วยเศษฟางหรือเศษใบไม้ด้วยก็ได้ ถ้ามีใบฉำฉาจะดีทำให้ต้นเพกาโตเร็วขึ้น

2.จากนั้นนำต้นพันธุ์ที่ผ่านการเพาะแล้ว อายุประมาณ 2 เดือนลงหลุมปลูก กลบดิน รดน้ำ แต่อย่าให้แฉะจนเกินไป เพราะต้นลิ้นไม้ไม่ค่อยชอบน้ำ หลังปลูก 15 วัน ใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 ประมาณ 2-3 กำมือ/ต้น โรยรอบทรงพุ่ม ครบ 30 วัน ใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 อีกครั้ง ในอัตราเท่าเดิม ดูแลรดน้ำตามปกติ

3.ถ้าปลูกแบบต้นที่เพาะจากกิ่งชำ ประมาณ 4-5 เดือน จะเริ่มออกดอก แต่ถ้าปลูกแบบต้นที่เพาะด้วยเมล็ด ใช้เวลาประมาณ 1 ปี จะเริ่มออกดอก หลังจากที่ลิ้นไม้ออกดอกประมาณ 20-30 วัน จะเริ่มติดฝัก ระยะเวลา 1 ปี สามารถเก็บฝักได้ประมาณ 2-3 รุ่น แล้วแต่ความสมบูรณ์ของต้น

ข้อสังเกต  ต้นเพกา(ลิ้นไม้) ช่วงปีแรกที่ออกดอกจะไม่ค่อยติดฝัก ซึ่งเป็นธรรมชาติอยู่แล้ว แต่จะติดฝักมากในช่วงปีที่ 2 เป็นต้นไป


เทคนิคการขยายพันธุ์เพกาพันธุ์เพชรโนนผึ้งด้วยการชำรากหรือชำต้น

1.ถ้าชำต้น หรือ ชำราก เลือกตัดเฉพาะกิ่งพันธุ์ของต้นที่สมบูรณ์ กิ่งที่ไม่อ่อนหรือไม่แก่จนเกินไป เลือกต้นที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเท่ากับปากกาขึ้นไปมาทำการเพาะขยายพันธุ์ จะดีที่สุด ต้นลิ้นไม้จะเจริญเติบโตดี โดยตัดกิ่งชำให้มีขนาดประมาณ 1-2 นิ้ว แล้วนำมาเสียบลงถุงเพาะชำ

2.ใช้หน้าดิน 1 ส่วน + แกลบดำ 1 ส่วน ผสมคลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วกรอกใส่ถุงดำครึ่งถุง เตรียมไว้เป็นถุงสำหรับเพาะขยายพันธุ์

3.โรงเรือนสำหรับเพาะชำนั้น ต้องเป็นที่ร่มหรือแสงแดดรำไร ไม่ควรโล่งแจ้งหรือแดดจัดมากเกินไป

4.ดูแลรดน้ำถุงเพาะทุวันๆละ 1 ครั้ง จนอายุประมาณ 2 เดือน สามารถย้ายลงหลุมปลูกได้
การขยายพันธุ์ต้นเพกา(ลิ้นไม้) ทุกวิธี ใช้เวลาเพาะประมาณ 1.5 – 2 เดือน จึงสามารถย้ายลงหลุมปลูกได้
เทคนิคการขยายพันธุ์เพกา(ลิ้นไม้) พันธุ์เพชรโนนผึ้งแบบเพาะเมล็ด

1.ใช้เมล็fดเพกา(ลิ้นไม้)มาเพาะ โดยใส่ถุงเพาะ 2 เมล็ดต่อถุง กดลึกลงไปประมาณ 1 ข้อนิ้วมือ

2.ใช้หน้าดิน 1 ส่วน+แกลบดำ 1 ส่วน+ปุ๋ยคอก 1 ส่วน คลุกเคล้าผสมกันจากนั้นกรอกลงในถุงเพาะ ดูแลรดน้ำถุงเพาะทุวันๆละ 1 ครั้ง จนอายุประมาณ 2 เดือน สามารถย้ายลงหลุมปลูกได้


ประโยชน์และสรรพคุณของนเพกา(ลิ้นฟ้า)
1.ใช้เป็นอาหาร
-ยอดอ่อนและฝักอ่อน มีรสขม นิยมเผาหรือลวกสุก จะทำให้มีความขมลดลง เผาแล้วขูดเอาผิวออกให้หมด กินกับน้ำพริกต่างๆ
-เมล็ดลิ้นไม้(เพกา) เป็นส่วนประกอบในน้ำจับเลี้ยงที่คนจีนนิยมดื่มกัน
-ข้อควรระวัง ถ้ากินมากอาจทำให้เป็นต้อเนื้อที่ดวงตาได้

2.สรรพคุณทางยา
ผลเพกา(ลิ้นไม้) มีวิตามินเอสูง ช่วยบำรุงสายตา เหมาะกับคนที่ขาดวิตามินเอ และมีเส้นใยอาหารมาก ช่วยให้ระบบขับถ่ายเป็นปกติ ทั้งเส้นใยยังช่วยลดการดูดซึมไขมันและน้ำตาลเข้าสู่กระแสโลหิตด้วย  เมล็ด ใช้เป็นยาระบาย แก้ไอ ขับเสมหะ โดยต้มเมล็ดหนึ่งกำมือกับน้ำ 300 ซีซี จนเดือดให้เนื้อยาออกมา จากนั้นนำไปดื่มวันละ 3 ครั้ง ต่อเนื่องประมาณ 5-7 วัน

ฝักอ่อน ช่วยขับลมในท้อง ขับเสมหะ บำรุงร่างกาย
เปลือก และ ต้น แก้ท้องร่วง ร้อนใน สมานแผลลดการอักเสบ ลดอากาแพ้ บำรุงเลือด ขับเสมหะด้วย และยังเป็นส่วนผสมของยาสมุนไพรแก้เบาหวาน แก้ริดสีดวงทวาร

สนใจศึกษาดูงานการปลูกและดูแลรักษาต้นเพกาพันธุ์เพชรโนนผึ้ง หรือสั่งซื้อต้นพันธุ์ได้ที่ คุณสุรพล คูณผล บ้านเลขที่ 99 หมู่ 7 บ้านผึ้ง ตำบลโนนผึ้ง อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี บ้านอะลาง


ขายเพกาฝักละ5,000บาทที่ร้อยเอ็ด
ผืนดินที่มีอย่างจำกัด 2 ไร่เศษนิดหน่อย ริมคลองส่งน้ำชลประทานหนองหญ้าม้า ถนนสายร้อยเอ็ด อาจสามารถ เป็นบ้านน้อยในป่าไผ่ น่าอยู่แบบพอเพียง จับงานเพาะเมล็ดพันเพกาหรือลิ้นฟ้าเตี้ยขายกล้าละ50บาทฝักละ5,000บาท เพกาผักพื้นบ้านรสขม รับประทานกับลาบ ก้อย น้ำพริก ป่นปลา อร่อยครับ

คุณสมควร สาลี อายุ 49 ปี เกิดวันที่ 29 มกราคม 2503 บ้านเลขที่ 97 ม.10 บ้านเปลือยน้อย ต.หนองไผ่ อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด ภรรยาคือคุณวราภรณ์ ลูกสาวน่ารัก 2 คน ที่อยู่อาศัยพร้อมเป็นพื้นที่ทางการเกษตรแบบพอเพียง 2 ไร่เศษ ปลูกไผ่ลืมแล้ง อีกส่วนหนึ่งประมาณ 1 งานปลูก “เพกา” หรือลิ้นฟ้าเตี้ยจำหน่าย โดยการเพาะเมล็ด ต้นลิ้นฟ้าหรือเพกา มีประมาณ 50 ต้น ขึ้นอย่างเบียดเสียดกัน เป้าหมายคือ การขยายพันธ์ขาย เป็นเพกา “เตี้ย” อายุ 1 ปี ให้ผลผลิต หากขายฝักราคาฝักละ 20-25 บาท ปล่อยให้แก่จัด จะได้เมล็ดอย่างน้อย 100 เมล็ด เพาะในถุงพลาสติกดำขนาด 3-4 นิ้ว อายุ 30-40 วัน ได้กล้าอย่างสวยงาม วางในเรือนเพาะชำ

โชว์ที่หน้าบ้าน เกษตรกรเข้ามาเยี่ยมสวน เห็นต้นเพกาเตี้ย ซื้อไปปลูกคนละ 5-10 ต้น ราคาต้นละ 50 บาท 1 ฝักมีเมล็ดพันธุ์ 100 เมล็ด มูลค่าประมาณ 5,000 บาทต่อฝักหรือมากกว่า อาชีพทางการเกษตรต้องพลิกแพลง สร้างกลยุทธ หรือเปิดช่องทางการตลาด แบบพอเพียง ไม่เอาเปรียบเกษตรกรด้วยกัน หากมีเวลาแวะนะครับ “สวนไผ่หวานคุณเพชร”หรือจะโทรศัพท์สอบถามก่อน โทร.089-4179666 หรือ 083-1406472 ยินดีต้องรับครับ

วัชรินทร์ เขจรวงศ์/รายงาน
คิวภาพ.สวนเพกา/เกษตรกรไปซื้อ/เยี่ยมชม