ผลมะยมมีฤทธิ์กัดเสมหะและเป็นยาระบาย ใบเป็นส่วนประกอบของยาเขียวตำราไทยใช้ รากแก้ไข รักษาโรคผิวหนัง น้ำเหลืองเสีย ผื่นคัน ใบ ต้มน้ำอาบแก้คัน แก้ไข้ เหือด หิด อีสุกอีใส ในผลมีแทนนิน เดกซ์โทรส เลวูโลส ซูโครส วิตามินซี ในรากมี beta-amyrin, phyllanthol, แทนนิน ซาโปนินกรดแกลลิก สารสกัดจากมะยมที่สกัดด้วยเอทานอลมีประสิทธิภาพดีทในการยับยั้งการเจริญของ E. coli O157:H7 และ Propionibacterium acnes
มะยม (ชื่อวิทยาศาสตร์: Phyllanthus acidus) ภาคอีสานเรียกว่า หมากยม ภาคใต้เรียกว่า ยม เป็นไม้ยืนต้น ขนาดเล็กถึงขนาดกลาง สูงประมาณ 3 – 10 เมตร ลำต้นตั้งตรง เปลือกต้นขรุขระสีเทาปนน้ำตาล แตกกิ่งที่ปลายยอด กิ่งก้านจะเปราะและแตกง่าย ใบประกอบ มีใบย่อยออกเรียงแบบสลับกันเป็น 2 แถว แต่ละก้านมีใบย่อย 20 – 30 คู่ ใบรูปขอบขนานกลม
มะยมดอง
การดองเพื่อเก็บรักษามะยมเอาไว้กินนานๆ ส่วนมากนิยมดองใส่โหลเก็บไว้กินหรือเพื่อจำหน่าย ซึ่งใช้เวลาเพียง 3 วันก็สามารถนำมารับประทานและจำหน่ายได้ โดยจะนิยมดองเมื่อวัตถุดิบนั้นๆ มีราคาถูกและหาได้ง่าย มะยมนั้นทุกๆครัวเรื่อนจะมีปลูกไว้เพราะเป็นไม้มงคลอีกชนิดหนึ่ง ที่ปลูกได้ง่ายไม่ต้องรกษาอะไรก็สามารถงอกงามได้เองตามธรรมชาติ
ส่วนผสม
1.มะยม 1 กิโลกลัม
2.น้ำสะอาด 3 ถ้วยตวง
3.เกลือ 1/2 ถ้วยตวง
วิธีการทำมะยมดอง
1.นำมะยมมาล้างทำความสะอาดและคัดเลือกผลที่ช้ำออกไป
2.เตรียมน้ำสำหรับดองมะยม โดยผสมเกลือ น้ำตาลและสะอาดนำไปต้มให้พอเดือดตั้งไว้ให้อุ่น
แล้วนำไปใส่ในขวดโหลที่จะดอง
3.นำมะยมใส่ขวดโหลใช้ของหนักๆทับไว้ให้มะยมจมลงไปในน้ำเกลือ
4.ปิดฝาทิ้งไว้ 2 วันขึ้นไป สามารถนำมารับประทานเป็นของขบเคี้ยวหรือของว่างได้อย่างดี
แต่ต้องทานกับพริกเกลือจะได้รสชาติที่ดีมากยิ่งขึ้น