การเลี้ยงกุ้งเครฟิช



 การเลี้ยงกุ้งเครฟิชเลี้ยงเชิงพาณิชย์ 
คุณฉะอ้อน เผนโคกสูง เกษตรกรสำนึกรักบ้านเกิดจังหวัดนครราชสีมา ประจำปี 2551 ทำการเกษตรแบบผสมผสาน เน้นการเลี้ยงสัตว์แบบอินทรีย์ เจ้าของผลงาน “กบคอนโด” ล่าสุดได้นำกุ้งเครฟิชมาเลี้ยง ปัจจุบันมีอยู่ประมาณกว่า 12,000 ตัว และได้แนะนำเกษตรกรถึงขั้นตอนการเลี้ยงดังนี้

  การเตรียมบ่อ  
ลักษณะสร้างบ่อ ใช้ไม้ไผ่ปักเป็นหลักไว้ 4 มุม แล้วเตรียมพลาสติกใส หรือพลาสติกสีดำขนาดยาว 4 เมตร กว้าง 2 เมตร ลึก 50 เซนติเมตร นำมุมพลาสติกทั้ง 4 มุมมามัดติดกับหลักไม้ไผ่ทำเป็นบ่อ และยกให้ขอบบ่อสูงขึ้นหลังจากใส่น้ำ ยกให้สูงประมาณ 50 เซนติเมตร เพื่อป้องกันสัตว์ที่จะมากิน  บ่อที่ดีควรให้มีร่มเงาใต้ต้นไม้  บดบังแสงแดด เพื่อลดอุณหภูมิในน้ำไม่ให้ร้อนจนเกินไป  เพราะอาจจะทำให้กุ้งตายได้  บ้านอะลาง

  ขั้นตอนการเลี้ยงกุ้งเครฟิช 
เมื่อได้บ่อแล้วให้ปล่อยน้ำเข้าไปในระดับน้ำสูงประมาณ 40 เซนติเมตร นำกุ้งเครฟิชพ่อพันธุ์-แม่พันธุ์ จำนวน 1 คู่ มาปล่อยในบ่อ

  การเลี้ยงกุ้งเครฟิช    สำหรับตัวเมียจะมีการวางไข่ทุก 4-6 เดือน เมื่อเลี้ยงพ่อพันธุ์-แม่พันธุ์ ได้อายุประมาณ 4-6 เดือน ให้เริ่มตักกุ้งขึ้นมาดูว่ามีการออกไข่หรือยัง ถ้ามีการออกไข่แล้วให้นำกุ้งแยกออกมา โดยนำมาใส่ไว้ในตะกร้าสี่เหลี่ยมที่มีรูระบาย ใช้ตะกร้า 2 ใบประกบกันนำกุ้งไปอยู่ข้างใน แล้วมัดทุ่นลอยน้ำไว้ครึ่งหนึ่งเพื่อให้กุ้งสลัดไข่ออกป้องกันกุ้งกินไข่ตัวเอง (กุ้งจะต้องเลี้ยงในที่เงียบเพื่อช่วยในการวางไข่ หากมีเสียงอึกทึกจะทำให้กุ้งเวลาออกไข่มันจะกินไข่ตัวเองจนหมด เพราะกลัวว่าไข่จะได้รับอันตราย)

ขนาดบ่อยาว 4 เมตร กว้าง 2 เมตร ลึก 50 ซ.ม. จะปล่อยลูกกุ้งได้ 500 ตัว กุ้งจะมีการขยายตัวทุก 6 เดือน และลอกคราบออกเอง ใน 1 ปี กุ้งจะวางไข่ 2 ครั้ง ถ้าเป็นกุ้งสาวรุ่นแรกจะได้ไข่ที่ออกมาเป็นลูกกุ้งประมาณ 200-300 ตัว หากเป็นกุ้งที่โตเต็มที่อายุ 1 ปี จะได้ไข่ออกมาเป็นลูกกุ้งประมาณ 400-500 ต่อตัว เมื่อเลี้ยงอายุครบ 12 เดือน จะได้กุ้งน้ำหนักประมาณ 7-9 ตัว ต่อ 1 กิโลกรัม บ้านอะลาง

  การให้อาหารกุ้งเครฟิช  
อาหารอาจจะให้ไรแดง ก็ได้ พอกุ้งมีอายุประมาณ 2 เดือน ก็จะกินอาหารประเภทเนื้อปลานิลสับ เศษเนื้อปลาทู หรือปลาเล็กสับละเอียดก็ได้ ให้เดือนละครั้งก็พอ
นอกจากการเลี้ยงแบบบ่อพลาสติกยกสูงแล้วยังสามารถเลี้ยงในนาข้าวได้ด้วยเช่นกันกุ้งเครฟิช
สามารถจำหน่ายได้ราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 1,200 บาทหรือขีดละประมาณ 120 บาท ในการเลี้ยงเมื่อจดทะเบียนการเลี้ยงแบบพาณิชย์ มีการรับรองเรื่องการเลี้ยงส่งออกจะสามารถขายได้ถึงกิโลกรัมละ 1,500 บาท

ที่มา : ศูนย์ทางด่วนข้อมูลการเกษตร * 1677   สถานีวิทยุร่วมด้วยช่วยกัน จ.นครราชสีมา