การเพาะปลูก การปลูกเห็ดหอม
เห็ด
หอม
เป็นเห็ดที่รู้จักและนิยมบริโภคกันมานานนับศตวรรษในหมู่ชาวจีนและญี่ปุ่น
ทั้งนี้นอกจากมีรสชาติดีและกลิ่นหอมแล้ว
ยังมีคุณค่าทางโภชนาการสูงและมีคุณสมบัติทางยาอีกด้วย ถือเป็น
ยาอายุวัฒนะขนานหนึ่ง
จากการศึกษาค้นคว้าระหว่างสถาบันมะเร็งแห่งชาติของญี่ปุ่น
ร่วมกับมหาวิทยาลัยในรัฐเซาท์แคโรไลนาของสหรัฐอเมริกา
พบว่าเห็ดหอมมีสารพิเศษที่เป็นประโยชน์ต่อมนุษย์หลายชนิด เช่น สารเลนติแนน
(lentinan) สารอีรีทาดีนิน (eritadenin) และสารเอซี-ทูพี (AC-2P)
ทำให้เห็ดหอมมีประสิทธิภาพในการต่อต้านมะเร็ง
ลดไขมันในเส้นเลือดและต่อต้านเชื้อไวรัสบางชนิด เช่น ไข้หวัด
จึงทำให้ผู้บริโภคหันมารับประทานเห็ดหอมกันอย่างแพร่หลายมากขึ้น
เนื่อง
จากเห็ดหอมที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติจะออกดอกเฉพาะฤดูกาลและมีปริมาณไม่
เพียงพอกับความต้องการ จึงได้มีการศึกษาค้นคว้า หาวิธีการเพาะมาแต่โบราณ
และพัฒนาเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งมีกรรมวิธีการเพาะที่ง่าย
ไม่สลับซับซ้อน
และสามารถเพาะได้ตลอดทั้งปีคือเพาะบนท่อนไม้และเพาะในขี้เลื่อย
วิธี
การเพาะบนท่อนไม้
ไม้ที่ใช้เพาะเห็ดหอมมีหลายชนิดทั้งไม้เนื้อแข็งและไม้เนื้ออ่อน
ไม้ที่ให้ผลผลิตสูง ได้แก่ ไม้ในสกุลก่อ โอ๊ค ขั้นตอน
การเพาะแบ่งออกได้ดังนี้
การเตรียมไม้ ตัดไม้เป็นท่อน ๆ
ยาวประมาณท่อนละ 100 ซม. ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง ตั้งแต่ 5 ซม. ขึ้นไป
ระวังอย่าให้เปลือกไม้ช้ำ ฉีก แตก หรือล่อน
ถ้าไม้นั้นชุ่มน้ำก็ให้พักไม้ไว้ 15-30 วัน จึงจะใส่เชื้อ
การ
ใส่ เชื้อ
เจาะรูที่ท่อนไม้ด้วยตุ๊ดตู่หรือสว่านไฟฟ้าเป็นแถวตามความยาวของท่อนไม้ แต่
ละรูและแถวห่างกันประมาณ 7 ซม. ขนาดรูกว้าง ประมาณ 1 ซม. ลึก 2.5 ซม.
นำเชื้อซึ่งทำจาก ขี้เลื่อยมาทำเป็นแท่งสี่เหลี่ยม ขนาดใกล้เคียงกับรู
ที่เจาะไว้ ใส่เชื้อเกือบเต็มรู แล้วปิดด้วยฝาเปลือกไม้
(ที่เจาะด้วยตุ๊ดตู่ ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อย)
และตอกให้แน่นแนบสนิทกับเปลือกท่อนไม้ เมื่อใส่
เชื้อทั่วทุกรูแล้วนำท่อนไม้ไปกองไว้ใต้ร่มไม้หรือใน โรงเรือน

การ
ดูแลรักษา ขณะกองพักไม้ไว้เพื่อให้เชื้อเจริญเติบโตทั่วท่อนไม้
ต้องหมั่นดูแลรักษาความชื้นในเนื้อไม้ไม่ให้แห้งด้วยการรดน้ำอย่างสม่ำเสมอ
และดูแลเรื่องความสะอาด ระวังอย่าให้ปลวกหรือ แมลงทำลายท่อนไม้
และควรกลับกองไม้ประมาณเดือนละครั้ง โดยสลับเอาท่อนไม้ด้านบนลงไว้ ด้านล่าง
ทั้งนี้เพื่อให้ท่อนไม้ได้รับความชื้นใกล้เคียงกัน
และเป็นการช่วยกระตุ้นให้เชื้อเห็ดเจริญเต็มทั่วทั้งท่อน
การ
ออกดอก เมื่อเชื้อเจริญเติบโตทั่วท่อนไม้ ใช้เวลา 3-6 เดือน
เชื้อเห็ดก็จะเริ่มสร้างตุ่มดอกและออกดอกเป็นช่วง ๆ
ตามความพอเหมาะของอุณหภูมิและความชื้นในอากาศ เพื่อให้มีผล
ผลิตเห็ดออกตลอดทั้งปี
จึงได้มีการคิดค้นวิธีบังคับให้เห็ดออกดอกได้ตามความต้องการ
ด้วยการกระตุ้นหรือเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อม เช่น การสั่นสะเทือน
การทำให้เย็น และการเพิ่มความชื้นภาย ในท่อนไม้ให้มีมากกว่าปกติ
ก็จะทำให้เชื้อเห็ดสร้างดอกได้
วิธีการเพาะเห็ดหอมในขี้
เลื่อย มีวิธีการเพาะที่คล้ายคลึงกับการเพาะเห็ดชนิดอื่น ๆ โดยใช้
ขี้เลื่อยไม้เนื้ออ่อน เช่น ยางพารา เหียง ตึง และจามจุรี (ก้ามปู) เป็นต้น
เพิ่มอาหารเสริม เช่น รำข้าว ข้าวฟ่าง น้ำตาล และดีเกลือ
โดยมีขั้นตอนแบบการเพาะเห็ดถุงทั่วไป
การเตรียมขี้เลื่อย
และบรรจุ ถุง ใช้ขี้เลื่อยผสมกับอาหารเสริมและน้ำ คลุกเคล้าให้เข้ากันดี
ความชื้นประมาณ 65% บรรจุส่วนผสมใส่ถุงพลาสติก ทนร้อน แล้วอบฆ่าเชื้อ
การ
ใส่เชื้อ ใช้เชื้อเห็ดที่เลี้ยงในเมล็ด
ข้าวฟ่างหรือขี้เลื่อยใส่ลงไปในถุงขี้เลื่อยที่อบฆ่าเชื้อซึ่งเย็นแล้ว
จากนั้นนำไปวางเรียงบนชั้นในโรงเรือน
เพื่อให้เชื้อทวีการเจริญเติบโตจนทั่วถุง
การดูแล หมั่นดูแลโรงเรือนให้สะอาด และรักษาอุณหภูมิในโรงเรือนอย่าให้สูงเกินไป ไม่ ต้องรดน้ำถุงขี้เลื่อย
การ
ออกดอก เมื่อเชื้อเจริญเติบโตได้ 3-6 เดือน ก็พร้อมจะออกดอก
สังเกตได้จากก้อนเชื้อจะมีผิวเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลและมีตุ่มขึ้นมาจากผิวก้อน
เชื้อ เห็ดจะออกเป็นช่วง ๆ
และบังคับให้ออกดอกได้เช่นเดียวกันกับการเพาะบนท่อนไม้
ประโยชน์ของ การปลูกเห็ดหอม
บำรุง
สมอง เพิ่มความสดชื่น คึกคัก ลดคอเลสเตอรอล ช่วยในระบบย่อยอาหาร
ป้องกันหลอดเลือดแดง แข็งตัว ต้านมะเร็ง รักษาหอบหืด ลดความเครียด
ต้านไวรัส บำรุงระบบประสาท ช่วยให้หลับง่าย บำรุงปอด บำรุงหลอดลม
ชะลอความชรา ฯลฯ
ควรบำรุงสุขภาพด้วยการนำเห็ดหอมมาปรุง
อาหารทุก ๆ สัปดาห์เป็นประจำ โดยนำมาปรุงเป็นอาหารจานผัด ๆ ต้ม ๆ
แต่ไม่ควรรับประทานในปริมาณมากจนเกินไป