เกษตรกรดีเด่นตำบลนาซอ สกลนคร
แนะเลี้ยงหนูพุกร่วมหมูป่าแบบผสมผสานด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่นสร้างรายได้ เกษตรกรดีเด่นของชุมชนตำบลนาซอ อำเภอวานรนิวาส สกลนคร รับรางวัลดีเด่น 2 ปีซ้อน (ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง) โดยใช้เนื้อที่ทุกตารางนิ้วเป็นประโยชน์ มีรายได้อยู่อย่างสุขสบาย โดยเฉพาะการเลี้ยงหนูพุกร่วมกับหมูป่าแบบผสมผสานด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่นที่แปลกกว่าที่อื่นมีรายได้จากการขายหนูได้ตลอด บ้านอะลาง
โดยที่ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงชุมชนดีเด่น นายแท่ง ปังอุทา อายุ 61 ปี บ้านเลขที่ 165 หมู่ 1 ต.นาซอ อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร เกษตรกรดีเด่นที่ได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดเกษตรกร สาขาอาชีพทำไร่นาสวนผสม ปี 2552 และ 2553 (2 ปีซ้อน) ป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในการน้อมนำทฤษฎีใหม่เศรษฐกิจพอเพียง.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาใช้ในการดำเนินชีวิตจนประสบความสำเร็จ
โดยเริ่มมาตั้งแต่ปี 2544 เป็นต้นมา ในเนื้อที่กว่า 60 ไร่ ได้พลิกฟื้นที่ดินแปลงทั้งหมดทำแบบผสมผสาน เช่น ทำนาปลูกข้าว ปลูกพืชสวนผสม ไผ่ มะม่วง และผลไม้อื่นๆ รวมถึงขุดบ่อเลี้ยงปลานานาชนิด ขณะนี้มีจำนวน 9 บ่อ พร้อมกับเลี้ยงสัตว์ ประกอบด้วย วัว ควาย หมู เป็ด ไก่ ที่เป็นจุดเด่นในศูนย์แห่งนี้คือ นายแท่ง ได้หันมาเลี้ยงหมูป่าแบบผสมผสานปล่อยเลี้ยงกับหนูพุกตามธรรมชาติ ซึ่งมีขนาดลำตัวใหญ่และมีน้ำหนักตัวโตเต็มที่ประมาณ 2 กก. มีผู้นิยมนำไปปรุงเป็นอาหารเมนูเด็ด ขณะนี้ยังมีไม่เพียงพอต่อความต้องการ
นายแท่งเกษตรกรดีเด่นรายนี้กล่าวว่า
ได้หันมาเลี้ยงหนูพุกโดยได้เลี้ยงผสมกับหมูป่ามานานกว่า 3 ปี เริ่มแรกได้นำพ่อแม่พันธุ์หนูพุกที่ไปซื้อมาจากที่อื่นนำมาปล่อยในเนื้อที่กว่า 4 ไร่ จำนวน 200 ตัวโดยได้ล้อมรอบด้วยการก่ออิฐบล็อกสูงประมาณ 60 ซม. และสังกะสีอีกชั้น เพื่อกันวัว ควาย เข้าไปทำร้ายกัดกินเหยียบย้ำที่อาศัยอยู่หนู ส่วนศัตรูที่สำคัญ คือ งู และแมว เข้าไปฆ่ากัดกิน ที่เป็นสาเหตุทำให้จำนวนหนูมีปริมาณลดน้อยลง ความต้องการของประชาชนผู้บริโภคหนูขณะนี้มีเป็นจำนวนมาก และมีไม่เพียงพอต่อความต้องการ
แต่พอหลังจากปล่อยหนูมานานกว่า 3 ปี
แล้วก็ยังสามารถดักจับได้ตามจำนวนที่ลูกค้าต้องการ ตัวหนึ่งราคาขั้นต่ำ 70-130 บาท นับว่าเป็นอาชีพที่มีรายได้ดี ลงทุนครั้งเดียวแต่สามารถขายได้ตลอด ประกอบกับได้เลี้ยงผสมผสานกับหมูป่า โดยมีรายได้จากการขายหมู ลูกหมู และหนูพุก เฉลี่ย 20,000-30,000 บาทต่อปี หากใครสนใจเรียนรู้ หรือศึกษาดูงานไปได้ที่ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงชุมชนดีเด่น นายแท่ง ปังอุทา บ้านนาซอ ต.นาซอ อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร โทรศัพท์ 08-9572-7119 บ้านอะลาง
ชาวนาที่จังหวัดสุรินทร์ออกจับหนูด้วยวิธีต่างๆ
เนื่องจากหนูได้กัดกินต้นข้าวและกินเมล็ดข้าว ทำให้นาข้าวเสียหายเป็นบริเวณกว้าง หลังข้าวเริ่มสุกเหลืองเต็มท้องนานายสามารถ ไม้หอม ชาวนาบ้านตาอ็อง หมู่ที่ 1 ต. ตาอ็อง อ. เมืองสุรินทร์ จ.สุรินทร์ กล่าวว่า ช่วงนี้ข้าวกำลังสุกและรอเก็บเกี่ยว เป็นช่วงที่หนูชุกชุมและหนูจะออกกัดกินต้นข้าวทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน ทำให้ต้นข้าวที่รอเก็บเกี่ยวเกิดความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง ตนจึงได้หาวิธีต่างๆ เพื่อจับหนู เช่น ทำบ่วงดักหนู เอาน้ำกรอกรู หรือเอาปะทัดที่ใช้จุดในเทศกาลต่างๆ มาจุดที่รูหนู เพื่อให้หนูตกใจตื่นและวิ่งออกมาให้จับ และอีกหลายวิธีที่ตนได้คิดค้นขึ้นมาเพื่อจับหนู ในแต่ละคืนก็ได้หลายตัว ตนก็นำหนูมาประกอบอาหาร ก็ไปขายในหมู่บ้าน ขายตัวละ 50 บาท วันหนึ่งขายได้ประมาณวันละ 500-600 บาท มีรายได้เพิ่มจากการทำนาและเปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาส บ้านอะลาง