เตยหอมพืชที่หลายๆท่านมองข้าม ทั้งที่จริงแล้วใบเตยนั้นมีราคาและคุณประโยชน์มากมายเลยทีเดียว วิธีการปลูกและการดูแลแสนจะง่าย ขายราคาก็สูง แถมเป็นพืชที่ตลาดต้องการไม่น้อยกว่าพืชชนิดอื่นๆ การปลูกต้นเตยนั้นไม่จำเป็นต้องมีพื้นที่กว้างมาก นอกเสียจากว่าเราต้องการปลูกเพื่อการค้าก็สามารถทำได้ เพียงให้ใกล้แหล่งน้ำเท่านั้น เมื่อเตรียมพื้นที่ได้แล้วก็ต้องเลือกต้นมาลงปลูก วิธีการเลือกต้นเพื่อนำมาลงปลูกนั้นควรเป็นต้นที่มีลักษณะมีเหง้าและรากที่สมบูรณ์ สูงประมาณ 8-10 นิ้ว
วิธีการปลูกใบเตย
การปลูก เตยหอม นั้นเราจะต้องมีพื้นที่จะเพาะปลูก ต้องใกล้น้ำค่อนข้างแฉะ มีน้ำหมุนเวียนตลอดปี มีร่มเงารำไรให้ต้นเตยไม่โดนแสงแดดโดยตรง หรือตามร่องสวน ตามชายบ่อน้ำ ส่วนการปลูกในพื้นนามีการเตรียมดินคล้ายกับการทำนาแต่ทำเพียงครั้งเดียวก่อน ปลูกเพื่อให้พื้นที่เรียบ ระบบน้ำดูแลง่าย ส่วนทางเดินเข้าเก็บเกี่ยวเตยหอมขึ้นอยู่ตามความสะดวกสบายที่ผู้ปลูกต้อง จัดการและวางแผนเองตามความเหมาะสมของพื้นที่ปลูกและขนาดพื้นที่ ก่อนปลูกต้องเปิดน้ำเข้าแปลงประมาณ 1 ฝ่ามือ หรือประมาณ 15 เซนติเมตร จากนั้นเตรียมต้นพันธุ์เตยหอมที่แข็งแรงที่มีรากปักลงในแปลง โดยทำเหมือนการดำนา จากนั้นดูแลระบบถ่ายเทน้ำดูแลไม่ให้ต้นที่ปักดำลอยขึ้นมา ทิ้งไว้ 3 เดือน จึงเพิ่มปริมาณน้ำขึ้น หลังจากปลูก 6 เดือน สามารถเก็บเกี่ยวได้ การเก็บเกี่ยวใช้มีดตัดยอด อย่าเสียดายยอด การตัดยอด 1 ยอด ทำให้เกิดยอดใหม่มากมาย โดยเฉลี่ยตัดไป 1 ยอด จะได้ยอดใหม่ 3-5 ยอด ทั้งนี้ การดูแลบำรุงรักษาต้นเตยหอมนั้นก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรมาก เพียงแต่เกษตรกรจำเป็นต้องเอาใจใส่อย่างสม่ำเสมอ มีการปรับพื้นที่ให้โล่ง ไม่มีวัชพืชขึ้นปกคลุมต้นเตยหอม เพราะจะทำให้ ใบเตย หอม หรือต้นเจริญเติบโตช้า และใบไม่สวย ควรจะใส่ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก บำรุงต้น และใบบ้าง เพื่อให้ต้นเตยหอม มีความอุดมสมบูรณ์สำหรับ ใบเตย หอม ที่ส่งขายไปยังท้องตลาด ก็สามารถจะนำไปประกอบอาหารคาว หวาน ได้ตามความต้องการ นอกจากนี้ก็ยังไปประกอบร่วมกับดอกไม้ในการไหว้พระ ซึ่งในตลาดมีความต้องการ ใบเตย หอมเป็นอย่างมาก
วิธีการปลูก เริ่มจากการไถพรวนพื้นที่ที่จะทำการปลูก แล้วขุดหลุม ขนาด 5×5 ซม. ลึก 6-7 ซม. ระยะห่างของแต่ละหลุม ประมาณ 8-10 ซม.เมื่อได้ขนาดของหลุมตามที่ต้องการแล้ว ใส่ปุ๋ยสูตร 15 - 15 – 15 แล้วตามด้วยมูลหมูขนาดหลุมละ 1 ถ้วย เพื่อเป็นการรองก้นหลุมนำต้นเตยที่เตรียมไว้ลงหลุมปลูกและกลบดินทับ
วิธีการบำรุงต้นเตย
พรวนดินทุกๆ 3-4 เดือน พร้อมใส่ปุ๋ยเพิ่มเข้าไป เช่น ขี้หมู โรยรอบๆโคนต้น
วิธีการให้น้ำ
จะต้องรดนำเป็นประจำทุกวันให้ดินเกิดความชุ่มตลอดเนื่องจากต้นเตยเป็นพืชที่ต้องการความชื้นมาก
วิธีการเก็บเพื่อจำหน่าย
เลือกใบที่สวย โดยใช้มือริใบของต้นเตยออกทีละใบเมื่อได้แล้วนำไปล้างน้ำให้สะอาด หรือจะตัดทั้งต้นเลยก็ได้ ราคาในท้องตลาด 50-80บาท/มัด (มัดละ50 ต้น) หรือ 20 บาท/ก.ก
ประโยชน์ของใบเตย
ใบเตย นั้นใช้เป็นยาบำรุงหัวใจ เพราะ ใบเตย มีฤทธิ์ลดอัตราการเต้นของหัวใจ จึงช่วยบำรุงหัวใจได้อย่างดี วิธีรับประทานคือ ใช้ใบสดผสมในอาหาร แล้วรับประทาน หรือนำใบสดมาคั้นน้ำรับประทาน ครั้งละ 2-4 ช้อนแกง ใบเตย สามารถช่วยดับกระหาย เนื่องจาก ใบเตย มีกลิ่นหอมเย็น หากนำมาผสมน้ำรับประทาน จะช่วยดับกระหาย คลายร้อน ทานแล้วรู้สึกชื่นใจ และชุ่มคอได้เป็นอย่างดี วิธีรับประทานคือ นำ ใบเตย สดมาล้างให้สะอาด นำมาตำหรือปั่นให้ละเอียด แล้วเติมน้ำเล็กน้อย คั้นเอาแต่น้ำดื่ม ใบเตย สามารถ รักษาโรคหัด หรือ
โรคผิวหนัง โดยนำ ใบเตย มาตำแล้วมาพอกบน
ผิวรากและลำต้น ใบเตย สามารถใช้รักษาโรคเบาหวาน เพราะรากและลำต้นของเตยหอมนั้น มีฤทธิ์ลดระดับน้ำตาลในเลือด วิธีรับประทานก็คือ ใช้ราก 1 กำมือนำไปต้มเป็นน้ำดื่ม ทุกเช้า-เย็น ใบเตย สามารถใช้เป็นยาขับปัสสาวะ โดยการนำต้นเตยหอม 1 ต้น หรือราก ครึ่งกำมือ ไปต้มกับน้ำดื่มนอกจากนี้ เตยหอม ยังช่วยในเรื่องของอาการที่อ่อนเพลีย ดับพิษไข้ และชูกำลังได้อีกด้วย เห็นสรรพคุณมากมายขนาดนี้แล้ว ต้องบอกว่าไม่ธรรมดาจริง ๆ สำหรับเจ้าพืชสีเขียวใบเรียวชนิดนี้ ใช้ผสมอาหาร , ทำอาหาร , ดับกลิ่น , แก้โรคเบาหวาน และใช้บำรุงหัวใจ น้ำใบเตยกลิ่นหอมเย็นชื่นใจ ดื่มทำให้ชุ่มคอ ใบสามารถนำมาตำพอกโรคผิวหนังและลำต้นและรากใช้ทำยาขับปัสสาวะ
ที่มา : http://www.talaadthai.com/main/knowledgepage.aspx?id=418